รู้จัก Social media ของนักท่องเที่ยวคนจีน

นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน และเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายมากที่สุดในโลก (ข้อมูลจาก UNWTO – outbound tourism expenditure) สำหรับที่เมืองไทยเอง นักท่องเที่ยวคนจีนก็เป็นอันดับหนึ่ง ในนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายมากที่สุด ด้วยยอดการใช้จ่าย ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 6,300 บาท/วัน และจำนวนวันที่มาเที่ยว เฉลี่ย 7.2 วัน/ทริป
ทำความรู้จักโซเชียลมีเดียที่คนจีนใช้ประจำวัน
เพราะประเทศจีนแบนหลายๆแพลตฟอร์ม เช่น Google, Facebook, Instagram, X หรือ Twitter, Youtube ทำให้คนจีนใช้โซเชียลมีเดียแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆอย่างสิ้นเชิง นี่คือแพลตฟอร์มหลักๆ ที่พวกเขาใช้
- WeChat (微信) หรือ เว่ยซิน เปรียบได้กับการใช้ LINE ของบ้านเรา เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักที่คนจีนใช้สื่อสารในแต่ละวัน นอกจากนั้นยังใช้ WeChat Pay ในการชำระเงินผ่านมือถือ ซึ่งสามารถใช้ชำระเงินที่ร้าน ร้านอาหาร และใช้โอนเงินให้เพื่อนและครอบครัวได้อีกด้วย
- Weibo (微博) หรือ เว่ยป๋อ เปรียบได้กับการใช้ X หรือ Twitter คนจีนใช้เพื่อติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบัน หรือ ติดตามดาราและคนดัง และใช้ดู official account ของแบรนด์
- Baidu (百度) หรือ ไป่ตู้ เปรียบได้กับการใช้ Google โดย Baidu เป็นเครื่องมือค้นหาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีผู้ใช้งานมากกว่า 800 ล้านคน
- Douyin (抖音) หรือ โต๋วอิน หรือ TikTok ของคนจีน เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศจีน มีผู้ใช้งานมากกว่า 600 ล้านคน
- Taobao (淘宝) หรือ เถาเป่า เปรียบได้กับการใช้ Lazada หรือ Shopee เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคน Taobao โดยร้านค้าส่วนใหญ่บน Taobao ตั้งอยู่ในประเทศจีน และสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายบน Taobao ก็เป็นสินค้าจากประเทศจีนเช่นกัน
โซเชียลมีเดียที่นักท่องเที่ยวคนจีนใช้ เพื่อหาข้อมูลท่องเที่ยว
75% ของคนจีนใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูลท่องเที่ยว เพราะพวกเขาเชื่อว่า เนื้อหาจากคนที่มีประสบการณ์จริง เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ทันสมัย ทันเหตุการณ์ และมีมุมมองที่หลากหลายและเป็นประโยชน์มากกว่า
4 แพลตฟอร์มที่นักท่องเที่ยวคนจีนใช้ในการหาที่เที่ยว ที่กินและของช้อปปิ้ง
- Mafengwo (马蜂窝) หรือ หม่าเฟิงหวู แพลตฟอร์มแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยว คนจีนใช้เพื่อหาข้อมูล ในการวางแผนทริป เช่น เมืองที่จะไป ต้องไปที่ไหนบ้าง ? ควรพักกี่วัน ? และจัดตารางท่องเที่ยวอย่างไร ? เหมือนที่คนไทยจะวางแผนเที่ยวเอง แล้วต้องเข้าไปเสิร์ชใน pantip.com นั่นเอง
- Douyin (抖音) หรือ โต๋วอิน คนจีนใช้ในการแชร์ vlog ท่องเที่ยว เช่น 1 วันในกรุงเทพฯ, รีวิว 5 ร้านใน Central World, รีวิวรีสอร์ตในพัทยา หรือ รีวิวสินค้าโปรดจากประเทศไทย ซึ่งวิดิโอรีวิวอาจยาวตั้งแต่ 1 – 3 นาทีเลยทีเดียว และอาจะมีทั้งวิดิโอแนวนอนและแนวตั้ง เพราะเป็นแพลตฟอร์มวิดิโอจึงสามารถเล่ารายละเอียดได้น่าสนใจ
- Xiaohongshu (小红书) หรือ เสี่ยวหงชู เปรียบได้กับการใช้ Pinterest และ Instagram เป็นแพลตฟอร์มรีวิวสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน คนจีนใช้ในการดูรีวิวโดยเฉพาะ เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง คอนเทนท์จึงไปในแนวไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว ช้อปปิ้งและบิวตี้ มีคอนเทนท์อย่าง รีวิวรีสอร์ตที่ภูเก็ต รีวิวร้านกาแฟถ่ายรูปสวย รวมของฝากที่ซื้อจาก 7-Eleven ในเมืองไทย รีวิวสกินแคร์ไทย คอนเทนท์โชว์มุมถ่ายรูปที่วัดอรุณฯ
- Dianping (大众点评) หรือ เตี่ยนผิง แพลตฟอร์มให้เรตติ้งสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม สปา ร้านอาหารและบริการต่างๆ เหมือน wongnai ของคนไทย โดยคนจีนใช้ในการเช็คว่าโรงแรม หรือ ร้านต่างๆที่พวกเขาเห็นในรีวิว มีเรตติ้งจากผู้ใช้งานจริงดีหรือไม่ และเพราะแอพพลิเคชั่น Dianping มีแผนที่ฝังอยู่ คนจีนจึงใช้เพื่อบันทึกที่ตั้งของสถานที่ที่พวกเขาจะไป หรือดูว่ารอบๆ จุดที่พวกเขาอยู่มีที่ไหนที่ได้เรตติ้งสูงอยู่บ้าง
สรุป
เพราะนักท่องเที่ยวคนจีน ไม่สามารถเสิร์ชดูใน Google, Youtube, Instagram, X หรือ Twitter เหมือนนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ เราจำเป็นต้องมีคอนเทนท์ของแบรนด์เราในแพลตฟอร์มเหล่านี้ เพื่อได้รับการบอกปากต่อปากในหมู่คนจีน ดังนั้นต้องทำให้ธุรกิจของเราน่าสนใจ เหมาะกับการทำคอนเทนท์ลงในโซเชียลมีเดีย หรือ หากมีลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวคนจีน อย่าพลาดที่จะให้พวกเขารีวิวความประทับใจลงในแพลตฟอร์มเช่นกัน